ต้นเรื่องช่วง400ปีก่อน
มนุษย์ทำสงครามใหญ่
นักวิทยศาสตร์สิบคนได้พัฒนาอาวุธแยกเป็นสองสาย

Bio weapon อาวุธชีวภาพสามารถแบ่งเซลไปสิงสู่ ควบคุมเหยื่อได้ ขยายพันธุ์เองได้ แต่สุดท้ายมีความคิดเป็นของตนเอง คือ อันทราซัค

Psycho weapon อาวุธพลังจิต ใช้พลังจิตควบคุม แปรสภาพวัตถุ จนกลายเป็นเวทมนต์ในเวลาต่อมา คือ ดาร์กชไนเดอร์ นักบินควบคุมอัศวินมังกร หรืออดัมแห่งความมืด ผู้มีคุณสมบัติเทพอสูรในคนเดียว โดยมีจูดัสเพน(judas pain) เป็นแหล่งพลังงาน ทำให้มีร่างแข็งแกร่ง พลังจิตสูงล้น คืนสภาพเร็ว และเป็นอมตะ

ทว่าระหว่างที่อันทราซัคถล่มโลกอยู่นั้น ได้มีเทหวัตถุลึบลับตกลงมาจากท้องฟ้า
นั่นคือ ซาตาน ครึ่งคนครึ่งงูขนาดมหึมา ลำตัวยาวพอจะขดรอบโลกได้
และเหล่าทูตสวรรค์ติดตามมาปราบซาตานให้สิ้นซาก ยังผลให้โลกพินาศย่อยยับ

ซาตานพ่ายแพ้ถูกคุมขังในหลุมดำ

้เหล่าเทวทูตที่รบจนโลกพัง ถูกจองจำในคุกเยือกแข็งทานาโทส

อันทราซัคเสียหายหนักจากลูกหลงครั้งนั้น โดยมีนักวิทย์สิบคนคอยจู่โจมซ้ำจากปืนติดดาวเทียมสั่งการจากปราการลอยฟ้าคิงกริมสันกรอรี่ แล้วถูกผนึกทั้งสี่ให้หลับใหล

อัศวินมังกรเสียหายหนัก ดาร์กชไนเดอร์เจ็บสาหัสต้องใช้ระบบพยูงชีพ

เรื่องราวจึงเล่าขานต่อๆกันมาจนผิดแผกไปจากความจริง

นักวิทย์สิบคนได้ดัดแปลงตัวเองให้เป็นเอลฟ์ เพื่อให้มีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะ โดยเรียกตัวเองว่า ปราญช์ทั้งสิบ ปกครองโลกอย่างเงียบๆ

และดัดแปลงลูกเรือให้เป็นเอลฟ์กับมนุษย์จำนวนมาก แล้วนำเอลฟ์เหล่านั่นมาจำศีลในเตาพลังงานวิญญาณเพื่อให้ปราการลอยตัวได้

เมื่อดาร์กชไนเดอร์คืนชีพสำเร็จ ได้ศึกษาศาสตร์ในโลกเก่าต่างๆจนแตกฉาน แล้วเก็บอุปกรณ์ บันทึกจากโลกเก่าไว้ที่รังลับ มีเพียงสี่ขุนพลที่รู้จักสถานที่นี้

15ปีก่อน ผู้กล้าทั้งห้าที่สิบนักปราขญ์หนุนหลังอย่างลับๆ
ได้ให้เจ้าชายลาสขับอัศวินมังกรกำหราบดาร์กชไนเดอร์ได้สำเร็จ แต่ลาสเจ็บสาหัส สิบปราชญ์จึงผนึกลาสไว้ในลูกมังกร จึงไม่สามารถพูดให้ใครฟังถึงความจริงต่างๆได้

จนเทวทูตปรากฏตัวหลังอันสราซัคถูกมหาเวทสี่ธาตุพิฆาตจากดาร์กชไนเดอร์
เมื่อเหล่าเทวทูตฆ่าล้างทุกชีวิตที่พบเห็น ลาสจึงพ้นจากผนึก

หลังจากอาบิเกลระเบิดเตาพลังงานวิญญาณเพื่อปิดประตูข้ามมิติที่เทวทูตเข้ามาจากการระเบิดอันทราซัค
ประตูมิติได้ปิดลง

บางคนรอดอยู่ที่ปราการลอยฟ้าและโลก เช่น ชีร่า ชีนฮารี การ่า อาร์เชส คาลซู

บางคนรอดอยู่ที่ฐานปืนใหญ่ดวงจันทร์ เช่น อาบีเกล

บางคนตกนรก เช่น ดาร์กชไนเดอร์ โยโกะ

จากนั้นคนเขียนหยุดเขียน ยังไม่มีความคืบหน้า